ความรู้เรื่องครีมกันแดด

ครีมกันแดดถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องผิวหนังจากรังสีอัลตร้าไวโอเลต (รังสียูวี) รังสียูวีเป็นสาเหตุของริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และผิวแก่ก่อนวัย รังสียูวีมีอยู่ 3 ประเภทคือ ยูวีเอ ยูวีบี และยูวีซี แต่ละประเภทมีความยาวคลื่นต่างกันจึงทำให้ผ่านทะลุลงไปในผิวหนังได้ลึกต่างกัน

รังสียูวีเอ เป็นรังสีที่มีช่วงความยาวคลื่นมากที่สุด (320 – 400 mm) รังสียูวีเอสามารถผ่านทะลุแก้วและเมฆ อีกทั้งยังสามารถเจาะผ่านผิวหนังได้มากกว่ารังสียูวีบีถึง 30 – 50 เท่า จึงสามารถทำลายชั้นผิวที่อยู่ลึกลงไปได้ ซึ่งก่อให้เกิดริ้วรอย ความชราของผิวหนัง และมะเร็งผิวหนัง

รังสียูวีบีมีช่วงความยาวคลื่นในระดับปานกลาง (290 – 320 mm) รังสียูวีบีไม่สามารถทะลุผ่านแก้ว แต่ถึงแม้รังสียูวีบีจะทะลุผ่านผิวหนังชั้นบนได้ในระดับตื้นกว่ารังสียูวีเอ ก็สามารถทำลายผิวได้อย่างรุนแรง รังสียูวีบีทำให้ผิวไหม้ ผิวคล้ำ อีกทั้งยังเร่งให้เกิดความชราของผิวและมะเร็งผิวหนัง

รังสียูวีซี เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นในระดับสั้น (สั้นกว่า 290 mm) รังสีนี้ถูกกรองโดยชั้นบรรยากาศ จึงไม่สามารถผ่านทะลุลงมายังผิวโลก ดังนั้นรังสียูวีซีจึงไม่ทำลายผิวหนัง

ประโยชน์ของครีมกันแดด

ลดผลกระทบจากรังสียูวีเอและยูวีบี

ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันโปรตีนที่สำคัญต่อผิวหนังอย่างเช่น คอลลาเจนและอีลาสติน

ป้องกันผิวจากการผลิตเม็ดสีเมลานินจำนวนมาก ซึ่งจะก่อให้เกิด ฝ้าและกระ

ป้องกันผิวจากการเกิดมะเร็งผิวหนัง

ค่าเอสพีเอฟ (SPF) คืออะไร

ค่าเอสพีเอฟย่อมาจาก Sun Protection Factor ที่เป็นตัวระบุการปกป้องผิวจากรังสียูวีบี ยิ่งค่าเอสพีเอฟสูง จะยิ่งปกป้องผิวจากรังสียูวีบีได้มากยิ่งขึ้น

ค่าเอสพีเอฟเป็นตัวกำหนดระยะเวลาที่คุณสามารถอยู่กลางแดดได้โดนที่ผิวไม่ไหม้แดด อย่างเช่น หากโดยทั่วไปคุณอยู่กลางแดด แล้วผิวเริ่มไหม้แดงในเวลา 10 นาที เมื่อคุณทาครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟ 15 คุณจะสามารถอยู่กลางแดดได้โดยที่ผิวไม่ไหม้เป็นเวลา 150 นาที

ค่าพีเอ (PA) คืออะไร

ค่าพีเอคือค่าที่ครีมกันแดดสามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ ระดับของค่าพีเอจะถูกบ่งบอกโดยเครื่องหมายบวก เช่น PA+, PA++, หรือ PA+++ ยิ่งครีมกันแดดมีเครื่องหมายบวกมาก ยิ่งมีความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ

ควรเลือกครีมกันแดดอย่างไร

นอกจากต้องคำนึงถึงค่าเอสพีเอฟสูงๆแล้ว ควรเลือกครีมกันแดดที่มีคำว่า multispectrum protection, broad-spectrum protection, หรือ UVA/UVB protection เพราะสามารถปกป้องผิวได้ทั้งรังสียูวีเอและยูวีบี

เลือกครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟอย่างน้อย SPF15

เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของซิงก์ ออกไซด์ (zinc oxide) และ/หรือ ไทเทเนียมไดออกไซด์ (titanium dioxide) เพราะสารทั้งสองนี้สามารถดูดซึมและสะท้อนรังสียูวีออกจากผิว

วิธีทาครีมกันแดด

ทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสุดท้ายของขั้นตอนการดูแลผิว เพื่อให้ครีมกันแดดทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันรังสียูวี ควรทาครีมกันแดด 15 – 20 นาทีก่อนออกแดด เพื่อให้ครีมซึมสู่ผิวและให้ส่วนผสมในครีมกันแดดออกฤทธิ์เต็มที่ก่อนออกแดด

Comments are closed.