ขั้นตอนการดูแลผิวหน้าอย่างถูกวิธี
คนเราทุกคนอยากที่จะมีผิวสวยและสุขภาพดี การดูแลผิวหน้าอย่างถูกต้องจะช่วยปกป้องและคงความงามของผิวไว้ ทุกขั้นตอนในการดูแลผิวหน้ามีความสำคัญเพราะแต่ละขั้นตอนให้ประโยชน์ต่อผิวต่างกันและช่วยทำงานเสริมกันในการทำให้ให้ผิวพรรณดูสดใส
การทำความสะอาดผิวหน้า
ขั้นตอนแรกในการดูแลผิวหน้าคือการขจัดฝุ่น น้ำมัน เครื่องสำอางค์และสิ่งสกปรกต่างๆบนผิวหน้า ขั้นตอนนี้จะช่วยเตรียมผิวหน้าสำหรับการบำรุงด้วยครีมหรือโลชั่นบำรุงผิว เพื่อที่จะทำให้ครีมบำรุงซึมลงไปในผิวได้ลึกยิ่งขึ้น
– การล้างเครื่องสำอางค์: คุณควรล้างเครื่องสำอางค์อย่างถูกต้องเพื่อที่จะไม่เป็นการทำร้ายผิว การล้างอายแชโดว์ มาสคาร่าและอายไลเนอร์นั้นคุณจำเป็นต้องใช้เมคอัพ รีมูพเวอร์ที่ออกแบบมาเพื่อล้างเครื่องสำอางค์บริเวณผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ เพราะเครื่องสำอางค์ดังกล่าวมักจะเป็นประเภทกันน้ำซึ่งล้างออกยาก อีกทั้งผิวบริเวณรอบดวงตาบอบบางมาก
จากนั้นล้างเครื่องสำอางค์บนใบหน้าด้วยน้ำนมหรือครีมล้างเครื่องสำอางค์ โดยน้ำนมหรือครีมล้างเครื่องสำอางค์ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของน้ำมัน เมื่อเครื่องสำอางค์สัมผัสกับน้ำมันจะหลุดออกจากผิวได้ง่าย แต่หากคุณมีผิวมัน คุณควรที่จะใช้ครีมล้างเครื่องสำอางค์สำหรับผิวมันโดยเฉพาะเพื่อลดการอุดตันของรูขุมขน
– การล้างหน้า: เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะสมกับผิวของคุณ หากคุณมีผิวมัน คุณควรเลือกใช้โฟมหรือเจลล้างหน้า หากคุณมีผิวแห้ง คุณควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เป็นน้ำหรือครีม หากคุณมีผิวผสม คุณสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าประเภทใดก็ได้
หากคุณที่ปัญหาสิว คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วรผสมของ ซาลิไซลิก เอซิดที่ช่วยผลัดผิวและลดการอุดตันของรูขุมขน หากคุณมีผิวแพ้ง่าย คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ปราศจากน้ำหอมที่อาจจะทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้
– การใช้โทนเนอร์ปรับสภาพผิว: โทนเนอร์ช่วยขจัดฝุ่น น้ำมัน และเครื่องสำอางค์ที่ยังตกค้างหลังการล้างหน้า แต่ความจริงแล้วผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ดีจะสามารถขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจดอยู่แล้ว ดังนั้นขึ้นอยู่กับตัวคุณเองว่าจะใช้โทนเนอร์หรือไม่
– การ exfoliation: การ exfoliate ผิวเป็นการขจัดผิวหนังที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกอย่างล้ำลึก โดยการ exfoliate ทำได้ทั้งการขัดผิว หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลัดผิวโดยไม่ต้องขัด อย่างเช่น เอเอชเอ ซาลิไซลิก เอซิด หรือเอนไซม์ผลไม้ การ exfoliate ผิวช่วยลดปัญหารูขุมขนกว้าง สิว และสีผิวไม่สม่ำเสมอ อีกทั้งยังช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่ง สดใสเพราะผิวหนังที่ตายแล้วได้หลุดลอกออกไป
การบำรุงผิว
– การทาเซรั่ม: เซรั่มบำรุงผิวสามรถซึมลงไปในผิวหนังได้ลึกกว่าครีมบำรุงผิวเพราะว่า เซรั่มมีขนาดของโมเลกุลเล็กกว่าครีมบำรุงผิว คุณสามารถเลือกเซรั่มให้เหมาะกับความต้องการของคุณ เช่นเซรั่มที่ช่วยป้องกันริ้วรอย หรือเซรั่มเพิ่มความขาวใส
– การทาครีมบำรุงรอบดวงตา: คุณสามารถใช้ครีมบำรุงผิวหน้าทาบริเวณใต้ตา แต่มันจะดีกว่าหากคุณใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาโดยเฉพาะ เพราะครีมดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อลดปัญหารอยคล้ำใต้ตาและถุงใต้ตาจึงมีส่วนผสมบางอย่างที่ครีมบำรุงผิวหน้าไม่มี
– การทาโลชั่น/ครีมบำรุงผิว: โลชั่น/ครีมบำรุงผิวช่วยให้ความชุ่มชื้น พร้อมทั้งป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นออกจากผิว คุณจำเป็นต้องทาครีมบำรุงแม้ว่าคุณจะมีผิวมัน หรือมีผิวเป็นสิวง่าย คุณสามารถเลือกใช้ครีมบำรุงชนิดเดียวสำหรับใช้ทั้งกลางวันและกลางคืน หรือแยกใช้เดย์ครีมสำหรับกลางวัน และไนท์ครีมสำหรับกลางคืน เดย์ครีมมีเนื้อบางเบาและแห้งเร็ว ในขณะที่ไนท์ครีมสามารถซึมสู่ผิวได้ลึกและให้ความชุ่มชื้นมากกว่า
การปกป้องผิว
– การทาครีมกันแดด: การทาครีมกันแดดช่วยปปป้องผิวจากรังสียูวี รังสียูวีเอเป็นสาเหตุของริ้วรอย กระ ฝ้า ในขณะที่รังสียูวีบีเป็นสาเหตุของผิวไหม้แดด คุณควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถป้องกันได้ทั้งรังสียูวีเอและยูวีบี โดยทาครีมกันแดด 20 – 30 นาทีก่อนออกแดด