Beauty for Thai

หากคุณอยากที่จะมีผิวสวย สุขภาพดี ใช้แค่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอาจไม่เพียงพอเพราะผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจะช่วยให้ผิวดูดีจากภายนอก ผิวของคุณยังต้องการสารอาหารที่ช่วยบำรุงจากภายในร่างกาย สารอาหารที่ช่วยให้ผิวของคุณสวย สุขภาพดีได้แก่

สารต่อต้านอนุมูลอิสระ / สารแอนตี้ออกซิแดนท์

สารแอนตี้ออกซิแดนท์ช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์ผิว อีกทั้งยังช่วยป้องกันริ้วรอย และคงความอ่อนเยาว์ของผิวไว้ วิตามินที่อุดมด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์คือ วิตามินเอ ซี และอี

– วิตามินเอ: วิตามินเอช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อในร่างกาย ช่วยป้องกันริ้วรอยและลบเลือนจุดด่างดำ แหล่งอาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอได้แก่ ตับ ชีส นม ไข่ แครอท บร็อคโคลี่ มะเขือเทศ และผักอื่นๆที่มีสีเขียวและส้ม

หากคุณต้องการรับประทานวิตามินเอที่เป็นอาหารเสริม คุณควรที่จะจำกัดปริมาณวิตามินเอไม่เกิน 10,000 IU ต่อวัน เพราะวิตามินเอเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำมัน หากรับประทานมากเกินไปจะตกค้างได้

– วิตามินซี: วิตามินซีเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจน อีกทั้งยังช่วยป้องกันการทำลายผิวโดยอนุมูลอิสระ แหล่งอาหารที่มีวิตามินซีสูงได้แก่ ส้ม กีวี มะนาว มะละกอ สตรอเบอร์รี่ และฝรั่ง

วิตามินซีเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ดังนั้นคุณจึงสามารถรับประทานวิตามินซีได้ทุกวัน ปริมาณที่แนะนำในการรับประทานวิตามินซีคือ 60 มิลลิกรัมต่อวัน แต่นี่คือปริมาณขั้นต่ำที่ไม่ก่อให้เกิดการขาดวิตามินซี ปริมาณวิตามินซีที่คุณควรที่จะได้รับในแต่ละวันเพื่อเสริมให้ผิวพรรณสวย สุขภาพดีคือประมาณ 500 – 1000 mg

– วิตามินอี: วิตามินอีช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตร้าไวโอเวตในแสงแดดและมลพิษจากสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังช่วยลดริ้วรอย แหล่งอาหารที่มีวิตามินอีสูงคือ ถั่วต่างๆ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ข้าวซ้อมมือ และอโวคาโด

ปริมาณวิตามินอีที่ถูกแนะนำให้ได้รับในแต่ละวันคือ 15 – 20 IU แต่มีหลายผลการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า การได้รับวิตามินอีประมาณ 100 – 200 IU ต่อวันให้ประโยชน์มากกว่า และการรับประทานวิตามินอีมากกว่าค่านี้ก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

โอเมก้า 3

โอเมก้า 3 ช่วยเสริมให้ผิวสุขภาพดีและช่วยป้องกันการหย่อนคล้อยของผิวโดยการรักษาระดับความยืดหยุ่นในผิวไว้ แหล่งของโอเมก้า 3 ได้แก่ วอลนัท เต้าหู้ถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ ปลาในเขตน้ำเย็นซึ่งได้แก่ ปลาแซลมอนและปลาซาร์ดีน

สถาบันหัวใจของประเทศสหรัฐอเมริกาแนะนำให้ได้รับปริมาณ EPA และ DHA ที่เป็นสารสำคัญในโอเมก้า 3 รวมกันประมาณ 0.5 – 1.8 กรัมต่อวัน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ปริมาณดังกล่าวถือเป็นค่าที่สามารถนำมาใช้วัดปริมาณที่คุณควรได้รับเพื่อให้มีสุขภาพผิวดี

ซิงก์หรือสังกะสี

ซิงก์ช่วยในการสมานแผลและช่วยรักษาสิว แหล่งอาหารที่อุดมด้วยซิงก์คือ หอยนางรม เนื้อวัว เนื้อหมู ปู เนื้อไก่ ลอบสเตอร์ หอย และปลาแซลมอน ปริมาณที่แนะนำให้ได้รับซิงก์ในแต่ละวันคือ 11 มิลลิกรัมสำหรับผู้ชายและ 8 มิลลิกรัมสำหรับผู้หญิง

ชาเขียว

ชาเขียวช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ปรับสภาพแสงแดดให้เป็นกลางเวลากระทบผิวหนัง ฟื้นฟูเซลล์ผิว และลดการอักเสบของผิวหนัง มีข้อมูลวิจัยหลายอย่างสนับสนุนการดื่มชาเขียว 4 แก้วต่อวัน หากคุณดื่มแก้วใหญ่ คุณสามารถลดลงเป็น 2 แก้วต่อวัน

อาหารที่คุณควรหลีกเลี่ยง

– อาหารที่มีน้ำตาลมาก น้ำตาลที่ขัดขาวแล้วสามารถนำไปสู่ผิวหนังอักเสบและยังเร่งความร่วงโรยของผิว ซึ่งทำให้เกิดริ้วรอยเร็วขึ้น

– อาหารที่มีรสเค็มจัด เกลือสามารถทำให้เกิดอาการบวมน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุของรอยบวมหรือถุงใต้ตา

– อาหารมันๆ อาหารมันจะส่งผลให้ผิวมันมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากผิวมันมาก ก็จะเกิดการอุดตันที่รูขุมขนและนำไปสู่การเกิดสิว