รอยแผลเป็นจากสิว

สิวเป็นหนึ่งในปัญหาผิวพรรณที่พบมากที่สุด ประมาณ 80 เปอร์เซนต์ของคนในช่วงอายุ 11-30 ปีมีสิว โดยส่วนใหญ่สิวจะเกิดขึ้นบนใบหน้า แต่หลายคนก็มีสิวบนร่างกาย เมื่อสิวหายมักจะทิ้งรอยแผลเป็น ประเภทและความรุนแรงของสิวเป็นตัวกำหนดว่ารอยแผลเป็นจะเป็นอย่างไร รอยแผลเป็นจากสิวในบางคนอาจจะหายได้เรากว่าคนอื่นๆ ในขณะที่รอยแผลสิวของบางคนจะอยู่ไปตลอดชีวิต การที่จะป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นจากสิวเราต้องรู้ถึงปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวและหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านั้น

 สาเหตุของการเกิดแผลเป็นจากสิว

ไม่ใช่ทุกประเภทของสิวที่ก่อให้เกิดรอยแผลสิว สิวหัวดำ สิวอุดตันและสิวอื่นๆที่ไม่มีการอักเสบไม่ก่อให้เกิดแผลเป็นสิว เพราะไม่มีการทำลายเนื้อเยื่อของผิวหนัง ในขณะที่สิวอักเสบและสิวหัวช้างมักจะก่อให้เกิดแผลเป็นสิว

 ประเภทของแผลเป็นจากสิว

แผลหลุม: หลุมสิวเกิดจากการที่เนื้อเยื่อผิวหนังลดการสร้างตัว เมื่อเกิดการอักเสบของสิวภายในรูขุมขน เชื้อโรคสามารถเข้าไปทำลายผิวหนังชั้นกลางในบริเวณนั้น ในการที่จะซ่อมแซมผิวหนังที่ถูกทำลาย ร่างกายเราจะสร้างคอลลาเจนขึ้นมาทดแทน แต่การซ่อมแซมผิวหนังในแต่ละครั้งไม่สามารถสมานให้ผิวหนังเรียบเนียนเหมือนช่วงก่อนการเกิดสิวจึงทำให้ผิวบริเวณนั้นเป็นหลุม

ลักษณะโดยทั่วไปของหลุมสิวมี 3 ลักษณะคือ

1. หลุมสิวแบบแคบและลึก (Ice pick scars)

2. หลุมสิวแบบขอบเหลี่ยม (Boxcar scars)

3. หลุมสิวแบบคลื่น (Rolling scars)

แผลนูน: เกิดจากการที่เนื้อเยื่อเพิ่มการสร้างตัว ในขณะที่ร่างกายซ่อมแซมผิวส่วนที่ถูกทำลายโดยสิว คอลลาเจนถูกสร้างมากเกินไป ทำให้ผิวส่วนนั้นเกิดการนูนขึ้นมา

– รอยดำ / รอยแดงจากสิว: จริงๆแล้วรอยดำและรอยแดงจากสิวไม่ถือว่าเป็นแผลเป็น รอยเหล่านี้เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงของสีผิวบริเวณที่เคยเกิดสิวเพียงชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งสิวอาจทิ้งร่องรอยตั้งแต่สีชมพู แดง ม่วง ไปจนถึงสีน้ำตาล รอยดำ / รอยแดงจากสิวนี้เป็นปฏิกิริยาที่เมลานินตอบสนองต่อการอักเสบของผิวหนัง

เมื่อเวลาผ่านไป รอยดำ / รอยแดงจากสิวนี้จะค่อยๆจางจนหายไปแม้จะมีหรือไม่มีการรักษาก็ตาม อย่างไรก็ตามเวลาที่ใช้ในการจางของรอยดำ / รอยแดงจากสิวขึ้นอยู่กับว่ารอยดังกล่าวเข้มมากน้อยเพียงใด หากสีเข้มมากก็จะใช้เวลานานในการทำให้รอยจางหายไป

การรักษาแผลเป็นจากสิว

การรักษาหลุมสิวและแผลนูน คุณควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพราะแผลเป็นจากสิวเหล่านี้ยากต่อการรักษาด้วยตัวเอง คุณอาจจะได้รับการรักษาโดยการใช้เลเซอร์ (Fractional laser) หรือการขัดผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (Microdermabrasion)

ส่วนการรักษารอยดำ / รอยแดงจากสิวคุณอาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA ไฮโดรควิโนน หรือเรตินเอ

การป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว

ป้องกันการเกิดสิว

พยายามลดการอักเสบของสิวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหากยิ่งปล่อยให้สิวอักเสบเป็นเวลานาน จะยิ่งทำให้เกิดแผลเป็นจากสิวรุนแรงขึ้น การใช้มาส์กหน้ารักษาสิวอย่างเช่น มาส์กเกลือหรือมาส์กแอสไพรินก็ช่วยให้สิวแห้งเร็วขึ้น

พยายยามอย่าแกะหรือบีบสิวเพราะจะทำให้มีโอกาสเกิดรอยดำ / รอยแดงจากสิวมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้เกิดการกระจายของเชื้อโรคในผิวหนังชั้นกลาง

– รับประทานอาหารเสริมและวิตามินรักษาสิวเพื่อลดการอักเสบของสิว

One Response to “รอยแผลเป็นจากสิว”

  • […] มีผลการวิจัยหลายอย่างที่แสดงให้เห็นว่า การที่ฮอร์โมนไม่สมดุลเป็นสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิว เพราะฮอร์โมนเหล่านั้นจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น ซิงก์จะช่วยในการปรับฮอร์โมนให้สมดุลและช่วยในการสมานแผลและป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว […]