สิว: สาเหตุและการดูแลรักษา

สิวเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดผลกระทบทั้งทางด้านรูปลักษณ์และจิตใจของคนที่เป็นสิว สิวโดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนใบหน้า อย่างไรก็ตามสิวบนร่างกายอย่าง หลัง ลำคอ หน้าอกและแม้กระทั่งแขนก็พบได้บ่อยครั้ง ความรุนแรงของสิวมีตั้งแต่เล็กน้อยเช่นป็นสิวอุดตันละสิวหัวดำ ไปจนถึงสิวที่มีความรุนแรงและก่อให้เกิดแผลเป็นอย่างเช่น สิวหัวช้าง

สาเหตุของสิว

ความเชื่อที่ว่าการกินอาหารมันๆหรือกินช็อคโกแลตเป็นต้นเหตุทำให้เกิดสิว ในความเป็นจริงแล้วการกินอาหารจำพวกนี้มีผลกระทบต่อการเกิดสิวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่จากผลวิจัยล่าสุดพบว่า การกินอาหารที่มีน้ำตาลทรายขาวหรือการกินอาหารจำพวกแป้งมากๆมีผลทำให้เกิดการกระตุ้นของต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันมากขึ้น

ปัจจัยอื่นๆที่ก่อให้เกิดสิวได้แก่

– ฮอร์โมน: ฮอร์โมนคือปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดสิว ฮอร์โมนแอนโดรเจนเป็นตัวกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น เมื่อน้ำมันผสมกับเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วจะก่อให้เกิดการสะสมของน้ำมันใต้ผิวหนังและกลายเป็นสิวอุดตันและสิวหัวดำ หากมีแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวมาสัมผัสสิวอุดดันหรือสิวหัวดำจะทำให้รูขุมขนเกิดการบวม จากนั้นระบบในร่างกายเราจะทำการป้องกันความผิดปกติของผิวหนัง โดยส่งเม็ดเลือดขาวไปยังที่ที่เกิดอาการบวม ซึ่งกระบวนการนี้ทำให้เกิดการอักเสบจนกลายเป็นสิวที่รุนแรงกว่า อย่างเช่นสิวอักเสบและสิวหัวช้าง

– กรรมพันธุ์: กรรมพันธุ์เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวในบางคน

– เครื่องสำอางค์: เครื่องสำอางค์บางประเภททำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุของการสะสมของน้ำมันใต้ผิวหนัง

– ยา: ยาบางชนิดกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น และเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังอุดตัน

การรักษาและป้องกันการเกิดสิว

– ล้างหน้าบริเวณที่มีสิววันละ 2 ครั้ง เพื่อทำชะล้างน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนผิวหนัง ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของซาลิไซลิค เอซิด (ซาลิไซลิค เอซิดคือตัวเดียวกับ BHA) โดยซาลิไซลิค เอซิดจะช่วยสลายการอุดตันในรูขุมขน และป้องกันปัญหารูขุมขนกว้าง

– ในการสครับผิว ไม่ควรสครับรุนแรงเกินไป และไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบของผิว และกระตุ้นให้สิวอักเสบมากยิ่งขึ้น

– สำหรับการักษาสิวที่ไม่รุนแรงมากนัก สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของซาลิไซลิค เอซิดหรือเบนซอยล์ เปอร์รอกไซด์ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ยารักษาสิวที่มีส่วนผสมของเบนซอยล์ เปอร์รอกไซด์คือ เจลแพนนอกซิลซึ่งมาซื้อได้ที่ร้านขายยา Watsons และ Boots

เบนซอยล์ เปอร์รอกไซด์ ทำหน้าที่ในการลดจำนวนแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว และช่วยกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกจากผิวหนัง ข้อเสียของการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเบนซอยล์ เปอร์รอกไซด์ คือ ผิวหนังในส่วนนั้นจะแห้ง ดังนั้นคนที่ใช้ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำในใบกำกับยาอย่างเคร่งครัด และต้องไม่ทาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมากหรือบ่อยเกินไป และที่สำคัญ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของซาลิไซลิค เอซิดหรือเบนซอยล์ เปอร์รอกไซด์อย่างต่อเนื่องหลังจากสิวหาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิวขึ้นอีก

– หากเป็นสิวมาก หรือรุนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพราะหากปล่อยให้เกิดการอักเสบของสิว ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา อาจจะทำให้เกิด รอยแผลเป็นจากสิวซึ่งยากต่อการรักษา

– อย่าบีบหรือกดสิวเอง เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น ยิ่งการบีบหรือกดสิวหัวช้างจะทำให้แบคทีเรียกระจายไปบริเวณอื่น

– พยายามอย่าจับหน้าหรือปล่อยให้ผมลงมาปรกหน้า เพราะทั้งมือและผมมีน้ำมันตามธรรมชาติที่อาจทำให้เกิดการอุดตันภายในรูขุมขน

– หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางค์ หากคุณต้องใช้เครื่องสำอางค์ ควรล้างเครื่องสำอางค์ออกอย่างหมดจดทุกครั้งหลังการใช้

– หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมประเภทเจลที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะผลิตภัณฑ์นั้นอาจจะมาสัมผัสผิว แล้วก่อให้เกิดการอุดตัน

– รับประทานอาหารเสริมรักษาสิวอย่างเช่น วิตามินอีหรือสังกะสี (ซิงค์) ที่มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลฮอร์โมนและช่วยลดการติดเชื้อและลดการอักเสบ

– ทำดีท็อกซ์ผิวเป็นประจำ เพื่อทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก

– ใช้มาส์กหน้ารักษาสิวอย่างเช่น มาส์กแอสไพรินหรือมาส์กชาเขียว

One Response to “สิว: สาเหตุและการดูแลรักษา”